วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ประวัติของ ดิดิเย่ ดร็อกบา

ประวัติของ ดิดิเย่ ดร็อกบา




พนันบอลออนไลน์




ข้อมูลนักเตะ


ชื่อเต็ม ดิดิเย่ อีฟว์ ดร็อกบา เตบิลี


เกิดวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 1978 (37 ปี)


สถานที่เกิด เมืองอาบีจาน ประเทศโกตดิวัวร์


ส่วนสูง 189 เซนติเมตร


เท้าที่ถนัด เท้าขวา


ตำแหน่ง กองหน้าตัวเป้า


สโมสรปัจจุบัน เชลซี



ประวัติของนักเตะ


ดิดิเย่ อีฟว์ ดร็อกบา เตบิลี เขาได้เกิดเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 1978 ที่เมืองอาบีจาน ประเทศโกตดิวัวร์ (ไอวอรี่โคสต์) เป็นนักฟุตบอลของสโมสรเชลซีในศึกลูกหนัง พรีเมียร์ลีก แห่งเกาะอังกฤษ เขาเคยเป็นกัปตันทีมชาติไอวอรีโคสต์แล้วยังได้ทำสถิติยิงประตูสูงสุดในทีมชาติ โดยเขายิงไปทั้งหมด 65 ประตู รวมไปถึงเขายังได้รางวัลดาวซัลโวสูงสุดของพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่ 2006-2007 ด้วยจำนวน 20 ประตู (เขายิงไป 33 ประตูถ้านับรวมทุกรายการ) และได้เป็นนักเตะดาวยิงสูงสุดของศึกพรีเมียร์ลีกอีกครั้งเมื่อฤดูกาลที่ 2009-2010 ด้วยการที่เขาซัดไปถึง 29 ประตู

พนันบอลออนไลน์

ดร็อกบา เริ่มต้นการเป็นนักฟุตบอลอาชีพโดยเริ่มจากการเล่นมนลีก ดิวิชั่น 2 ของฝรั่งเศส ซึ่งในตอนนั้นเขาได้เล่นให้กับทีมเลอม็อง ก่อนที่จะย้ายขึ้นมาเล่นใน ดิวิชั่น 1 กับทีม ก็องแก็ง และหลังจากนั้น โอลิมปิก มาร์กเซย์ ก็ได้ดึงตัวเขาไปร่วมทัพด้วยดร็อกบาเขาก็ไม่ทำให้ต้นสังกัดผิดหวังซึ่งเขาทำประตูไปได้ 18 ประตู จากการลงเล่น 35 นัดในลีก และยิ่งไปกว่านั้นเขายังยิงได้ในถ้วย ยูฟ่า คัพ อีกถึง 6 ประตู ทำให้ยอดกุนซืออย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ ได้เล็งเขาไว้เป็นตัวหลักในการเปิดตลาดซื้อขายนักเตะในปีนั้น และในที่สุดก็ได้ดึงตัวดร็อกบามาร่วมทัพได้สำเร็จ

ดิดิเย่ ดร็อกบา เขาได้ลงเล่นให้กับทีมชาติครั้งแรกเมื่อปี 2002 เขาได้พาทีมชาติ ไอวอรี่โคสต์ เขาไปเล่นในฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และเมื่อปี 2006 ในฐานะกัปตันทีมและต่อด้วยครั้งที่ 2 ในปี 2010 ถึงแม้ดร็อกบาจะทำประตูได้ทั้ง 2 ครั้ง แต่ทีมชาติของเขาก็ไม่สามารถผ่านรอบแบ่งกลุ่มไปได้เลย และในการแข่งขันระดับทวีปไอวอรีโคสต์ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จได้เท่าที่ควร โดยแพ้อียิปต์ในการดวลจุดโทษในนัดชิงชนะเลิศเมื่อปี 2006 และทำได้เพียงแค่อันดับที่ 4 ในปี 2008 ที่กาน่า และก็ตกรอบสุดท้ายเมื่อปี 2010

พนันบอลออนไลน์


ดร็อกบา เป็นนักฟุตบอลคนแรกที่ทำประตูได้ในสนาม นิว เวมบลีย์ จากการที่เขาสามารถยิงให้ทีมเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยุไนเต็ดไปด้วยสกอร์ 1-0 ดร็อกบาได้ย้ายมาจากสโมสร โอลิมปิก มาร์กเซย์ มาร่วมกับทีมเชลซีในช่วงปลายปี 2004 ถึงแม้อาการบาดเจ็บจะรบกวนเขาอยู่บ่อยครั้งในฤดูกาลแรกแต่ดร็อกบาเขาก็ยังสมารถยิงไปได้ถึง 16 ประตู รวมทุกรายการและหนึ่งในนั้นเป็นประตูในนัดชิงชนะเลิศ คาร์ลิ่ง คัพ


ฤดูกาลที่ 2005-2006 ดรอกบาเขายิงไปได้ 16 ประตูอีกครั้ง โดยใน 12 ประตูนั้น เกิดขึ้นในพรีเมียร์ลีกและช่วยให้เชลซีป้องกันแชมป์ไว้ได้ ซึ่งก่อนที่เชลซีจะป้องกันแชมป์ได้นั้น ดรอกบาถูกกล่าวหาอย่างหนักจากการพุ่งล้มจากสองเกมและปัญหาที่เขาใช้มือเล่นบอล แต่เขาก็สามารถสยบเสียงวิจารณ์ลงได้ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมในเกมที่เจอกับสโมสร เวสแฮม ยูไนเต็ด เมื่อเดือน มีนาคม ปี 2006 ซึ่งในตอนนั้นเชลซีตกอยู่ในสถานะการณ์เป็นรองตามหลังอยู่ทั้งสกอร์และตัวผู้เล่น แต่ก็ยังสามารถพลิกกับมาเอาชนะได้ 4-1



พนันบอลออนไลน์


และในซีซั่นต่อมา ดร็อกบาเขาก็สามารถทำไปได้ถึง 33 ประตู ซึ่งเป็นการซัดประตูในพรีเมียร์ลีกไป 20 ลูก ทำให้เขาได้คว้ารางวัลรองเท้าทองคำของพรีเมียร์ลีกไปครอง และดร็อกบายังสร้างสถิติลงสนามากที่สุดในพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลเดียวที่ 60 นัด มากเป็นอันดับที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร เขาจบด้วยการยิงประตูแรกของสโมสรในสนาม นิว เวมบลีย์ ให้ทีมสิงโตนำเงินครามเชลซีเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปได้ในนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ปี 2007


ฤดูกาลที่ 2007-2008 ดร็อกบา เขาโดนอาการบาดเจ็บที่หัวเข่ารบกวน และต้องลงแข่งในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติในแอฟริกา ทำให้เขาจบซีซั่นนั้นด้วยการที่เขาทำได้เพียง 15 ประตู หนึ่งในนั้นคือการยิง สเปอส์ที่สนาม นิว เวมบลีย์ ในนัดชิงชนะเลิศ คาร์ลิงคัพ ที่เชลซีแพ้ไป ดร็อกบาเขายิงลิเวอร์พูลได้ถึง 2 ลูก ที่สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกส์ รอบรองชนะเลิศ และจบทัวร์นาเมนต์ลงไปด้วยการที่เขาโดนใบแดงในนัดชิงชนะเลิศที่แพ้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปีนั้น


ฤดูกาลที่ 2008-2009 การมาของผู้จัดการทีมคนใหม่อย่างเขาคนนี้ หลุยส์ เฟลิเป้ สโกลารี่ มาพร้อมกับความคาดหวังที่จะให้เกมรุกของเชลซีมีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น แต่ดรอกบาก็ยังมีปัญหากับอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ่อยๆทำให้เขาเล่นไม่ได้อย่างที่เคย แม้เขาจะยิงประตูทีม เบิร์นลี่ ได้ในถ้วยคาร์ลิ่งคัพ เขากลับโดนแบนห้ามไม่ให้ลงเล่นอีกถึง 3 นัด จากการที่เขาแสดงท่าดีใจหลังยิงเข้าอย่างไม่เหมาะสม และเมื่อ กุส ฮิสดิงค์ เข้ามาคุมทีมตั้งแต่กลางเดือน กุมภาพันธ์ ดร็อกบาเขาก็ได้เรียกฟอร์มเก่งกลับมาอีกครั้งด้วยการทำประตูให้กับทีมในนัดสำคัญหลายนัด แต่ก็ต้องมาพบกับเหตุการณ์พลิกผลันอีกครั้งในเกมแชมเปี้ยนลีกส์รอบรองชนะเลิศที่พบกับทีม บาร์เซโลน่า หลังจากที่เชลซีตกรอบด้วยประตูในช่วงทดเวลาของ อินเนสต้า ดร็อกบาเขาไม่พอใจคำตัดสินของ ทอม เฮนดิง โอเฟรโบ ทำให้โดนลงโทษห้ามแข่ง 3 นัดในฤดูกาลหน้า และในนัดชิง เอฟเอ คัพ ในปีนั้น ดร็อกบาได้ทำประตูตีเสมอเอฟเวอร์ตัน ซึ่งเป็นประตูที่ 4 ของเขาในสนาม นิวเวมบลีย์ จาก 4 เกมที่เขาเคยลงเล่นที่นี่


พนันบอลออนไลน์


ฤดูกาลที่ 2009-2010 เขาได้เหมาคนเดียว 2 ประตูในนัดเปิดการแข่งขันพรีเมียร์ลีกปี 2009-2010 นั่นถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีว่า ดร็อกบา เขาได้รักษาฟอร์มการเล่นที่ดีในช่วงท้ายซีซั่นที่แล้วไว้ได้ คาร์โล อันเชล็อตติ ได้วางเทคติกโดยให้ ดร็อกบา และ อเนลก้า ยืนหน้าคู่กัน และนั่นทำให้เขาซัดประตูไป 18 ประตูจาก 21 เกม ในช่วงคริสต์มาส และจบฤดูกาลด้วยการยิงไปทั้งหมด 37 นัด รวมไปทุกรายการ ช่วยให้เชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกและ ดร็อกบาก็ได้คว้ารางวัลรองเท้าทองคำในซีซั่นนั้นไปครอง ประตูชัยของเขาใน เอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ ยังช่วยให้ในซีซั่นนั้นทีมสิงโตน้ำเงินครามเชลซีได้คว้า ดับเบิ้ลแชมป์ ฟุตบอลลีกและถ้วยเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และดร็อกบายังถูกโหวตให้เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีจากแฟนบอลอีกด้วย


และในปี 2012 เชลซีได้ผ่านเข้าไปในนัดชิงของรายการใหญ่ของยุโรป ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกส์ นัดชิงชนะเลิศซึ่งได้พบกับทีม บาเยิร์น มิวนิก โดยเขาได้สวมบทเป็นฮีโร่ โขกทำประตูในนาทีที่ 88 และประตูนั้นช่วยให้เชลซีตีเสมอ บาเยิร์น ได้เป็น 1-1 และก็ได้เลยไปจนถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่ทั้งสองทีมก็ทำอะไรกันไม่ได้ จึงต้องมาตัดสินกันในการดวลลูกจุดโทษ และเขาได้ยิงเป็นคนสุดท้ายทำให้เชลซีเอาชนะไปได้ 4-3 และนั่นทำให้เชลซีได้คว้าแชมป์ ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกส์ มาครองได้สำเร็จและนี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ได้ก่อตั้งสโมสรมา โดยที่ ดร็อกบา ก็ถูกโหวตให้เป็น ยูฟ่า แมนออฟ เดอะ แมตช์ ในกาลแข่งขันฤดูกาลที่ 2011-2012


พนันบอลออนไลน์


เกียรติประวัติ


เชลซี

แชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 4 ครั้ง : 2005,2006,2010,2015
แชมป์เอฟเอคัพ 4 ครั้ง : 2007,2009,2010,2012
แชมป์ลีกคัพ 3 ครั้ง : 2005,2007,2015
แชมป์คอมมิวนิตี้ชิลด์ 2 ครั้ง : 2005,2009
แชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกส์ 1 ครั้ง : 2012


กาลาตาซาราย

ตุรกี ซุปเปอร์ลีก 1 ครั้ง : 2013
เตอร์กิช ซุปเปอร์ คัพ 1 ครั้ง : 2013
เตอร์กิช คัพ 1 ครั้ง : 2014

ส่วนตัว

นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของลีกเอิง ฝรั่งเศส 1 ครั้ง : 2004
นักฟุตบอลแอฟริกันยอดเยี่ยมแห่งปี 2 ครั้ง : 2006,2009
ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทีมชาติไอวอรีโคสต์ 3 ครั้ง : 2006,2007,2012
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรเชลซี 1 ครั้ง : 2010
รองเท้าทองคำ (พรีเมียร์ลีก) 2 ครั้ง : 2007,2010
ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของซุปเปอร์ ลีก ตุรกี 1 ครั้ง : 2013







พนันบอลออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น