วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ประวัติของ เมาโร อิคาร์ดี้

พนันบอลออนไลน์


ประวัติของ เมาโร อิคาร์ดี้ 






ข้อมูลส่วนตัว 


ชื่อเต็ม เมาโร อิคาร์ดี้


วันเกิด 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1993  (อายุ 22 ปี)


เกิดที่ เมือง โรซาริโอ ประเทศ อาร์เจนติน่า


สัญชาติ อาร์เจนติน่า


ส่วนสูง 181 ซม.


น้ำหนัก 75 กก.


ตำแหน่ง กองหน้า


สโมสรปัจจุบัน อินเตอร์ มิลาน


หมายเลขเสื้อ เบอร์ 9


ย้ายมาจาก สโมสร ซามโดเรีย


พนันบอลออนไลน์


ประวัติการค้าแข้ง


เมาโร อืคาร์ดี้   เขาคือหนึ่งในสุดยอดกองหน้าแห่งศึก ลาลีก้า สเปน แต่ทว่าว่าถ้าจะให้พูดถึงคู่แข่งของเขาล้วนแล้วมีแต่ซุปเปอร์สตาร์ ไม่ว่าจะเป็นทางด้าน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หรือว่าจะเป็น ลิโอเนล เมสซี่ และอาจจะมีสตาร์อื่นๆแทรกเข้ามาอย่าง หลุยส์ ซัวเรส , เนย์ มาร์ , แกเร็ธ เบล แต่มีอยู่ 1 คนที่ในตอนนี้เขาระเบิดฟอร์มได้ดุเดือดมาก ด้วยการพาทีมต้นสังกัดคว้าแชมป์ถ้วยเล็กของยุโรปนั่นก็คือ ยูโรป้า ลีก มาครอบครองไว้ได้สำเร็จในนัดชิงนั้นเขายังเหมาคนเดียวไป 2 ตุง พูดมาซะขนาดนี้แล้วหลายๆคนอาจจะรู้จักกันเป็นอย่างดีนั่นก็คือ คาร์รอส บัคก้า ศุนย์หน้าบ้าพลังเลือดโคลอมเบียนั่นเองครับ เมื่อฤดูกาลที่ 2006 เขาได้เริ่มเล่นฟุตบอลกับทีมสโมสร แอตเลติโก้ จูเนียร์ ทีมเล็กๆในประเทศบ้านเกิดของเขานั่นเอง ซึ่งเขาได้ถูกจับให้เซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพในตอนนั้นเลย พนันบอลออนไลน์ ในตอนนั้นเขาทำงานไปด้วยพร้อมกับเล่นฟุตบอลไปด้วย และงานในตอนนั้นของเขาก็คือการขับรถโดยสาร และเขาก็ได้ทำมันเป็นประจำในช่วงที่เขาออกจากการซ้อมบอลเสร็จ ที่เขาต้องทำทุกอย่างแบบนี้ก็เพราะว่าเขาได้เกิดมาในครอบที่ที่ค่อนข้างลำบากมากๆ หลังจากนั้นเขาก็ได้ย้ายไปเตะให้กับทีม บาร์รันคิลล่า ด้วยสัญญาการยืมตัว การ์รอส บัคก้า เขาได้ถูกยืมตัวมาใช้งานกับสโมสรบาร์รันคิลล่า และเขาก็สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกระเทียมดองเลยทีเดียว ด้วยการที่เขาลงสนามไป 27 นัด และสามารถยิงไปได้ถึง 12 ลูก และพอซีซั่นนั้นได้จบลงก็ได้มีทีมจาก เวเนซูเอล่า อย่าง มิเนอร์เว็น เข้ามาติดต่อขอยืมตัวเขาไปใช้งานเป็นเวลา 1 ปี ฤดูกาลที่ 2007 - 2008 บักก้า ได้กลายเป็นขวัญใจของมหาชนแฟนบอลทีม มิเนอร์เว็น เป็นอย่างมากจากการที่เขาสามารถพาทีมจบอันดับ 2 ของตารางได้ ในซีวั่นนั้นเขาซัดไปทั้งหมด 12 ตุง จากการที่เขาได้ลงเล่นไป 29 แมตช์ และเมื่อหมดสัญญาการยืมตัว เขาก็ได้กลับมายังทีมต้นสังกัดอีกครั้ง


เมื่อฤดูกาลที่ 2008 - 2009 เขาได้กลับมาเล่นให้กับทีม บาร์รันคิลล่า อีกครั้งและในซีซั่นนี้เขาได้โชว์ฟอร์มในการล่าตาข่ายได้อย่างแพรวพราวมากเลยทีเดียว และเขาก็ได้รางวัลตอบแทนนั่นก็คือการคว้ารางวัลดาวซัลโวสูงสุดในลีกมาครองได้ ด้วยการที่เขากดไปทั้งหมด 14 ลูก จากการลงสนามเพียง 19 นัด หลังจากนั้นต่อมาที่เขาได้ร่อนเร่พเนจรไปๆมาๆ 2 สโมสร ในฤดูกาลที่ 2009 - 2010 เขาก็ได้กลับมาอยู่กับทีมต้นสังกัดที่แท้จริงของเขานั่นก็คือ แอตเลติก จูเนียร์ โดยการกลับมาครั้งนี้เขาได้กลับมาพร้อมกับฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม ทำให้ทีมต้นสังกัดได้จับเขาเซ็นสัญญษให้เป็นนักฟุตบอลอาชีพในทันที และสำหรับซีซั่นแรกของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของเขาก็ไดเริ่มขึ้น บักก้า เขาสามรถและเรียนรู้ในการปรับตัวได้อย่างรวดเร็วในการเป็นนักเตะอาชีพ และในฤดูกาลแรกของเขาก็สามารถคว้ารางวัลดาวยิงสูงสุดของลีก โคปา โคลอมเบีย ได้เมื่อปี ค.ศ. 2009 พนันบอลออนไลน์ และในซีซั่นถัดมา บักก้า เขาก็ได้กลายเป็นดาวยิงสูงสุดของลีก โคลอมเบีย ยังไม่พอแค่เท่านั้นเมื่อปี ค.ศ. 2011 บักก้า ก็ได้สร้างสถิติของตัวเองอีกครั้งด้วยการคว้ารางซํลโวของลีกเป็นครั้งที่ 2 ของเจ้าตัวเอง และได้พาทีม แอตเลติโก้ จูเนียร์ จบอันดับที่ 6 และ 7 ตามลำดับข้างต้น จากการยิงประตูอย่างบ้าคลั่งของเขาทำให้ชื่อเสียงของเขาดังไปทั่วประเทศ โคลอมเบีย และยังดังต่อไปจนถึงฝั่งยุโรปอีกด้วย แต่ในช่วงนั้นก็เป็นเพียงสโมสรเล็กๆอย่างทีม โลโคโมทีฟ มอสโก และทีม คิเอโว่ เพียง 2 ทีมเท่านั้นที่คอยตามดูฟอร์มการเล่นของเขา เพื่อหวังที่จะคว้าตัวของเขาไปร่วมทีม แต่สุดท้ายแล้วก็เป็นทีม โคโลโมทีฟ มอสโก ก็ได้เปลี่ยนเป้าไปเซ็นสัญญากับกองหน้าอย่าง เฟลิเป้ ไซเซโด้ และในตอนนั้นบักก้า เขาก็ได้มองหาทีมใหม่ๆต่อไปเรื่อยๆ และในตอนที่เขาลงเล่นให้กับทีม แอตเลติโก้ จูเนียร์ เขามีสถิติลงสนามไป 130 นัด และซัดไปอีก 73 ประตู


เมาโร อืคาร์ดี้ เขาคือหนึ่งในสุดยอดกองหน้าแห่งศึก ลาลีก้า สเปน แต่ทว่าว่าถ้าจะให้พูดถึงคู่แข่งของเขาล้วนแล้วมีแต่ซุปเปอร์สตาร์ ไม่ว่าจะเป็นทางด้าน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หรือว่าจะเป็น ลิโอเนล เมสซี่ และอาจจะมีสตาร์อื่นๆแทรกเข้ามาอย่าง หลุยส์ ซัวเรส , เนย์ มาร์ , แกเร็ธ เบล แต่มีอยู่ 1 คนที่ในตอนนี้เขาระเบิดฟอร์มได้ดุเดือดมาก ด้วยการพาทีมต้นสังกัดคว้าแชมป์ถ้วยเล็กของยุโรปนั่นก็คือ ยูโรป้า ลีก มาครอบครองไว้ได้สำเร็จในนัดชิงนั้นเขายังเหมาคนเดียวไป 2 ตุง พูดมาซะขนาดนี้แล้วหลายๆคนอาจจะรู้จักกันเป็นอย่างดีนั่นก็คือ คาร์รอส บัคก้า ศุนย์หน้าบ้าพลังเลือดโคลอมเบียนั่นเองครับ เมื่อฤดูกาลที่ 2006 เขาได้เริ่มเล่นฟุตบอลกับทีมสโมสร แอตเลติโก้ จูเนียร์ พนันบอลออนไลน์ ทีมเล็กๆในประเทศบ้านเกิดของเขานั่นเอง ซึ่งเขาได้ถูกจับให้เซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพในตอนนั้นเลย ในตอนนั้นเขาทำงานไปด้วยพร้อมกับเล่นฟุตบอลไปด้วย และงานในตอนนั้นของเขาก็คือการขับรถโดยสาร และเขาก็ได้ทำมันเป็นประจำในช่วงที่เขาออกจากการซ้อมบอลเสร็จ ที่เขาต้องทำทุกอย่างแบบนี้ก็เพราะว่าเขาได้เกิดมาในครอบที่ที่ค่อนข้างลำบากมากๆ หลังจากนั้นเขาก็ได้ย้ายไปเตะให้กับทีม บาร์รันคิลล่า ด้วยสัญญาการยืมตัว การ์รอส บัคก้า เขาได้ถูกยืมตัวมาใช้งานกับสโมสรบาร์รันคิลล่า และเขาก็สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกระเทียมดองเลยทีเดียว ด้วยการที่เขาลงสนามไป 27 นัด และสามารถยิงไปได้ถึง 12 ลูก และพอซีซั่นนั้นได้จบลงก็ได้มีทีมจาก เวเนซูเอล่า อย่าง มิเนอร์เว็น เข้ามาติดต่อขอยืมตัวเขาไปใช้งานเป็นเวลา 1 ปี ฤดูกาลที่ 2007 - 2008 บักก้า ได้กลายเป็นขวัญใจของมหาชนแฟนบอลทีม มิเนอร์เว็น เป็นอย่างมากจากการที่เขาสามารถพาทีมจบอันดับ 2 ของตารางได้ ในซีวั่นนั้นเขาซัดไปทั้งหมด 12 ตุง จากการที่เขาได้ลงเล่นไป 29 แมตช์ และเมื่อหมดสัญญาการยืมตัว เขาก็ได้กลับมายังทีมต้นสังกัดอีกครั้ง


ฤดูกาลที่ 2009 - 2010 เขาก็ได้กลับมาอยู่กับทีมต้นสังกัดที่แท้จริงของเขานั่นก็คือ แอตเลติก จูเนียร์ โดยการกลับมาครั้งนี้เขาได้กลับมาพร้อมกับฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม ทำให้ทีมต้นสังกัดได้จับเขาเซ็นสัญญษให้เป็นนักฟุตบอลอาชีพในทันที และสำหรับซีซั่นแรกของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของเขาก็ไดเริ่มขึ้น บักก้า เขาสามรถและเรียนรู้ในการปรับตัวได้อย่างรวดเร็วในการเป็นนักเตะอาชีพ และในฤดูกาลแรกของเขาก็สามารถคว้ารางวัลดาวยิงสูงสุดของลีก โคปา โคลอมเบีย ได้เมื่อปี ค.ศ. 2009 พนันบอลออนไลน์ และในซีซั่นถัดมา บักก้า เขาก็ได้กลายเป็นดาวยิงสูงสุดของลีก โคลอมเบีย ยังไม่พอแค่เท่านั้นเมื่อปี ค.ศ. 2011 บักก้า ก็ได้สร้างสถิติของตัวเองอีกครั้งด้วยการคว้ารางซํลโวของลีกเป็นครั้งที่ 2 ของเจ้าตัวเอง และได้พาทีม แอตเลติโก้ จูเนียร์ จบอันดับที่ 6 และ 7 ตามลำดับข้างต้น


จากการยิงประตูอย่างบ้าคลั่งของเขาทำให้ชื่อเสียงของเขาดังไปทั่วประเทศ โคลอมเบีย และยังดังต่อไปจนถึงฝั่งยุโรปอีกด้วย แต่ในช่วงนั้นก็เป็นเพียงสโมสรเล็กๆอย่างทีม โลโคโมทีฟ มอสโก และทีม คิเอโว่ เพียง 2 ทีมเท่านั้นที่คอยตามดูฟอร์มการเล่นของเขา เพื่อหวังที่จะคว้าตัวของเขาไปร่วมทีม แต่สุดท้ายแล้วก็เป็นทีม โคโลโมทีฟ มอสโก ก็ได้เปลี่ยนเป้าไปเซ็นสัญญากับกองหน้าอย่าง เฟลิเป้ ไซเซโด้ และในตอนนั้นบักก้า เขาก็ได้มองหาทีมใหม่ๆต่อไปเรื่อยๆ และในตอนที่เขาลงเล่นให้กับทีม แอตเลติโก้ จูเนียร์ เขามีสถิติลงสนามไป 130 นัด และซัดไปอีก 73 ประตู ซึ่งเขาได้ถูกจับให้เซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพในตอนนั้นเลย ในตอนนั้นเขาทำงานไปด้วยพร้อมกับเล่นฟุตบอลไปด้วย และงานในตอนนั้นของเขาก็คือการขับรถโดยสาร และเขาก็ได้ทำมันเป็นประจำในช่วงที่เขาออกจากการซ้อมบอลเสร็จ ที่เขาต้องทำทุกอย่างแบบนี้ก็เพราะว่าเขาได้เกิดมาในครอบที่ที่ค่อนข้างลำบากมากๆ หลังจากนั้นเขาก็ได้ย้ายไปเตะให้กับทีม บาร์รันคิลล่า ด้วยสัญญาการยืมตัว การ์รอส บัคก้า เขาได้ถูกยืมตัวมาใช้งานกับสโมสรบาร์รันคิลล่า และเขาก็สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกระเทียมดองเลยทีเดียว ด้วยการที่เขาลงสนามไป 27 นัด และสามารถยิงไปได้ถึง 12 ลูก และพอซีซั่นนั้นได้จบลงก็ได้มีทีมจาก เวเนซูเอล่า อย่าง มิเนอร์เว็น เข้ามาติดต่อขอยืมตัวเขาไปใช้งานเป็นเวลา 1 ปี ฤดูกาลที่ 2007 - 2008 บักก้า ได้กลายเป็นขวัญใจของมหาชนแฟนบอลทีม มิเนอร์เว็น เป็นอย่างมากจากการที่เขาสามารถพาทีมจบอันดับ 2 ของตารางได้ ในซีวั่นนั้นเขาซัดไปทั้งหมด 12 ตุง จากการที่เขาได้ลงเล่นไป 29 แมตช์ และเมื่อหมดสัญญาการยืมตัว เขาก็ได้กลับมายังทีมต้นสังกัดอีกครั้ง






















พนันบอลออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น